Myspace Glitter Text

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

แมวพันธุ์อะบิสซิเนียน (Abyssinians)

Abyssinian เป็นแมวที่สืบสายพันธุ์มาจากแมวของชาวอียิปต์โบราณ ที่เป็นที่เคารพสักการะบูชา เป็นแมวที่มีสีสันสวยงาม และมีสีขนที่มีลักษณะเป็นสีสลับกันในเส้นเดียวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน Abyssinian เป็นแมวที่มีขนาดปานกลาง และมีลักษณะท่าทางภายนอกที่สง่าผ่าเผย เป็นแมวที่มีความแข็งแรงดูมีกล้ามเนื้อ มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งที่อยู่รอบตัวมัน แต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลภายใน แสดงให้เห็นถึงลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางอารมณ์ที่มีความกลมกลืนกัน เป็นแมวที่มีความรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว และมีความขี้เล่นประสาแมว Abyssinian จึงจัดเป็นสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ชอบเลี้ยงแมวในปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมา
ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีใครที่จะสามารถบอกถึงแหล่งหรือต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์นี้ได้ว่ามีต้นกำเนิดจากที่ไหน และเมื่อไร แต่มีเรื่องที่ยังคงเล่าต่อ ๆ กันมาว่า Abyssinian นี้ เป็นแมวที่สืบสายพันธุ์มาจากแมวศักดิ์สิทธิ์ หรือแมวที่เคารพบูชาสักการะกันของพวกชาวอียิปต์โบราณ ซึ่งชาวอียิปต์เรียกว่า “Myeu” คาดว่าเป็นระยะเวลากว่า 4,000 ปีมาแล้วก็ว่าได้ ลักษณะของแมวสายพันธุ์นี้ จะสังเกตได้ว่ามีลักษณะที่ประจำตัวของมัน ที่มีความสอดคล้องกับสมมุติฐานข้างต้น กล่าวคือ ลักษณะของมันมีลักษณะที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกับหลักฐานทางโบราณคดีที่ถูกค้นพบอันได้แก่ ภาพวาดสีบนผนังถ้ำโบราณ และรูปั้นหรือรูปแกะสลักต่าง ๆ ของชาวอียิปต์ จึงเป็นหลักฐานที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Abyssinian กับแมวอียิปต์โบราณ
ต้นกำเนิดหรือจุดกำเนิดของแมวสายพันธุ์นี้ ที่ทำให้พวกเราได้รู้จักแมวพันธุ์นี้ คาดว่ามาจากแมวพันธุ์ “Abyssinain” ที่มีชื่อว่า “Zula” ซึ่งถูกนำเข้ามาจากประเทศ Abyssinia (ซึ่งปัจจุบันคือประเทศ Ethiopia) โดยนายทหารที่ไปทำการรบในสงคราม “Abyssinian” ที่เกาะ Zulu ในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1868 ตามหนังสือที่บันทึกไว้โดย Dr. Gordon Staples ในปี ค.ศ.1874 แต่อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดของแมวพันธุ์ “Abyssinian” นี้ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เช่นกัน กล่าวคือ บางความเชื่อก็เชื่อว่า Abyssinian นี้เป็นแมวพันธุ์พื้นเมืองของอังกฤษอยู่แล้ว หรือบางความเชื่อก็เชื่อว่า Abyssinian ที่เลี้ยงกันในปัจจุบันนี้ สืบสายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบริเวณชายฝั่งของแถบมหาสมุทรอินเดีย เป็นต้น
ในตอนต้นศตวรรษที่ 19 เชื่อกันว่าได้มีการนำเข้าแมวสายพันธุ์ “Abyssinian” นี้จากประเทศอังกฤษ เข้าไปยังทวีปอเมริกาเหนือ และต่อมาในช่วง ค.ศ.1930-1939 ก็ได้มีการขยายพันธุ์แมวพันธุ์นี้ออกไป จนกระทั่ง Abyssinian นี้กลายเป็นแมวที่ได้รับความนิยมมากพันธุ์หนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น Abyssinian นี้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ๆ ต่อมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ Abyssinian กลายเป็นแมวพันธุ์ที่ได้รับความชื่นชอบเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ในกลุ่มแมวจำพวกแมวสายพันธุ์ขนสั้น (สถิติข้อมูลจาก CFA: Cat Fancier’s Association)

ลักษณะทั่วไปภายนอก
Abyssinian เป็นแมวที่มีสีสรรสดใสสวยงาม มีขนที่มีลักษณะเป็น ticked คือ ลักษณะที่สีขนมีสีสลับกันสองสีภายในเส้นเดียวกัน สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นลักษณะเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ มีขนาดรูปร่างที่ไม่ใหญ่มาก ขนาดปานกลาง และมีลักษณะประจำสายพันธุ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การมีท่าทางที่สง่างาม เช่นเดียวกับสัตว์ที่อยู่ในป่า เช่น เสือหรือสิงโต มีขนาดสัดส่วนของร่างกายที่เหมาะสม ทำให้รูปร่างของลำตัวเกิดความสมดุลย์
ศีรษะ - มีลักษณะเป็นรูปลิ่มเป็นสันสูง ไม่มีลักษณะที่เป็นแผ่นเรียบ และสันรูปลิ่มนี้จะต่อยาวลงมาถึงบริเวณต้นคอ ขนทางด้านหน้าบริเวณศีรษะมีลักษณะเป็นรูปตัว M

ใบหูู - มีลักษณะที่ว่องไวปราดเปรียว คอยระแวดระวังภัย เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา มีลักษณะของหูที่ใหญ่ อีกทั้งยังมีส่วนของใบหูที่กว้างขยายออก และมีรูปร่างของหูเป็นรูปถ้วย ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการรับฟังเสียงจากภายนอกได้อย่างชัดเจน
ดวงตา - มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับเมล็ดอัลมอนด์ มีขนาดของดวงตาที่ใหญ่ ที่บริเวณขอบตามีสีของเส้นขนที่เข้ม ล้อมอยู่โดยรอบบริเวณดวงตาที่มีลักษณะสีขนที่อ่อนกว่า จึงเป็นการเน้นบริเวณดวงตาให้เห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับสีของดวงตานั้นที่พบได้โดยมาก จะเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว

ลำตัว - มีความยาวปานกลาง สามารถโค้งงอได้อย่างเป็นสัดส่วน ดูสวยงามเป็นสง่า มีการเจริญของกล้ามเนื้อดี สามารถเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก และที่สำคัญที่สุด คือ มีความสมดุลย์ของร่างกาย มีกระดูกที่แข็งแรงและสามารถยืนด้วยปลายเท้าได้อย่างมั่นคง
หาง - ค่อนข้างที่จะยางเรียว และค่อย ๆ เรียวเล็กลงไปเรื่อย ๆ จากบริเวณโคนหางถึงปลายหาง
ขน - มีลักษณะที่นุ่ม เรียบลื่นและเป็นมันเงา
ขาและเท้า - มีลักษณะของขาภายนอกที่ยาวเรียวได้สัดส่วน มีส่วนของกระดูกขาเจริญและแข็งแรงดี อุ้งเท้ามีขนาดเล็ก กลมรีเป็นรูปไข่ และอัดตัวกันแน่น

นิ้วเท้า - ที่บริเวณขาหน้ามี 5 นิ้ว และบริเวณขาหลังมี 4 นิ้ว

ลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ของสายพันธุ์
ลักษณะของขนที่เป็นวงสีขาว หรือจุดสีขาวบริเวณส่วนใด ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณโพรงจมูก, คาง, บริเวณส่วนขนของคอ หรือบริเวณหาง, ขนสีดำบริเวณคอ, ผิวหนังสีเทา เป็นต้น ใน Abyssinian พันธุ์ที่มีขนสีแดง แต่กลับมีขนเป็นสีดำ ก็ถือเป็นลักษณะด้อยผิดปกติ หรือลักษณะของนิ้วเท้าที่มีจำนวนผิดปกติผิดไปจากเดิม ก็ถือว่าเป็นลักษณะที่ไม่เหมาะสมของสายพันธุ์ด้วยเช่นกัน
ลักษณะนิสัย
ลักษณะนิสัยที่สำคัญของ Abyssinian นี้คงไม่เหมาะแน่สำหรับบุคคลที่ต้องการจะได้แมวเพื่อมาเลี้ยงเป็นแมวสวยงาม หรือเลี้ยงไว้เพียงเพื่อมาไว้นั่งอยู่แต่บนตักเพียงอย่างเดียว เพราะลักษณะนิสัยที่สำคัญของแมวพันธุ์นี้ คือ ความกล้าหาญ, ความทะนงองอาจ, ความอยากรู้อยากเห็น ไม่หยุดนิ่งอยู่เฉย ๆ เป็นแมวที่ชอบการผจญภัย ชอบโดดขึ้นไปอยู่บนที่สูง ๆ ยกตัวอย่างเช่น บนตู้เย็น หรือบนชั้นวางหนังสือ ชอบไปมีปฏิสัมพันธ์เที่ยวเล่นกับแมวตัวอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งคำว่า Abys นี้ก็เป็นคำที่มีความหมายอยู่ในตัวอยู่แล้ว คือ ความกระตือรือร้น หรือถ้าบุคคลใดต้องการแมวที่สามารถที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้ได้ Abyssinian ก็จัดได้ว่าเป็นพันธุ์แมวพันธุ์หนึ่งที่ไม่เป็นรองพันธุ์อื่น ๆ เช่นกัน เพราะท่าทางที่น่ารักชอบผู้คน และฉลาดหลักแหลมของมัน เป็นสิ่งที่ทำให้คนรักแมวต้องชื่นชอบมันอย่างแน่นอน
สำหรับลักษณะนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Abyssinian ก็คือ ความซื่อสัตย์, รักเจ้าของ, เชื่อฟังคำพูดของเจ้าของ และมีความน่ารักน่าเอ็นดู ทำให้แต่ละวันในชีวิต เป็นวันที่มีแต่ความสุข เพราะเจ้า Abyssinian นี้จะเข้าไปนั่งอยู่ในจิตใจคุณ คอยแบ่งปันความทุกข์เมื่อยามที่คุณทุกข์ หรือร่วมมีความสุขเมื่อยามที่คุณสุข เป็นเพื่อนร่วมทานอาหารเย็นกับคุณ และคอยติดตามคุณไปทุกหนทุกแห่ง เป็นเพื่อนที่คอยอยู่ใกล้คุณอยู่เสมอ
ลักษณะการดูแล
ขนของ Abyssinian นี้เป็นขนที่ง่ายต่อการดูแลรักษา สำหรับวิธีในการดูแลนั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่การแปรงขนให้มันเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อขจัดขนที่ผลัดออกมา และคอยหมั่นตัดเล็บเท้าให้มันทุก ๆ 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ก็จะช่วยทำให้เจ้า Abyssinian ที่แสนสวยและน่ารักของคุณนี้ ยังคงความน่ารักน่าเอ็นดูตลอดไป
การดูแลรักษาสุขภาพ
ตามปกติ Abyssinian จะเป็นพันธุ์แมวที่ค่อนข้างจะแข็งแรง มีสุขภาพดี เป็นแมวที่มีกิจกรรมทำตลอดเวลา เป็นแมวที่ค่อนข้างจะมีอายุยืน บางตัวสามารถมีอายุอยู่ได้ถึง 20 ปีก็มี อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่า มันเป็นแมวที่คอยหากิจกรรมทำตลอดเวลาไม่ยอมหยุดนิ่ง จึงควรที่จะคอยดูแลหรือเอาใจใส่มัน ให้เล่นหรือทำกิจกรรม อยู่ในเขตหรือขอบข่ายที่เราสามารถจะควบคุมได้ ซึ่งสิ่งนี้ยังมีผลดีต่อตัวมันเองด้วย คือเป็นการป้องกันการติดเชื้อโรคจากภายนอกได้ นอกจากนี้การดูแลมันไม่ให้มันออกมานอกเขตการดูแลแล้ว ยังจะต้องคอยหมั่นตรวจโปรแกรมการฉีดวัคซีนตามกำหนดต่อสัตวแพทย์ด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวมัน
สำหรับโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับ Abyssinian นี้ก็เช่นเดียวกับโรคที่เกิดกับแมวตัวอื่น ๆ นั่นก็คือ โรคเหงือกอักเสบ (gingivitis) ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ไม่รุนแรงมาก ถ้ามีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้บ้าง เราก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่มีผลต่อการเกิดโรคนี้ได้ สำหรับอาการของโรค เริ่มแรกจะเริ่มมีส่วนของเหงือกที่มีอาการบวมแดง และมีการหายใจหรือลักษณะของลมหายใจที่ผิดปกติ ปัจจัยที่สำคัญที่จะหลีกเลี่ยงหรือรักษาโรคเหงือกอักเสบนี้ได้คือ การควบคุมการกินอาหาร อีกทั้งควรจะหมั่นแปรงฟันให้มันตั้งแต่เล็ก ทุก ๆ สัปดาห์จนกระทั่งเป็นกิจวัตรประจำวัน และที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือควรที่จะพามันไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะตรวจสุขภาพฟัน แค่นี้โรคเหงือกอักเสบที่น่ากลัว ก็จะไม่มารบกวนเจ้า Abyssinian สุดที่รักของคุณอีกต่อไป
อีกโรคหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ด้อยไปกว่าโรคเหงือกอักเสบ (gingivitis) ก็คือโรคความผิดปกติของไต ที่เรียกว่า Renal Amyloidosis เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม สามารถพบได้ในแมวพันธุ์ Abyssinian เกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับแมวพันธุ์แท้ หรือแมวพันธุ์ผสมไม่ใช่เฉพาะกับ Abyssinian เท่านั้น แต่กับแมวพันธุ์อื่น หรือกับมนุษย์ก็สามารถที่จะเกิดอาการของโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อแมวที่ถูกใจสักตัวหนึ่ง ควรที่จะสังเกตให้ดีก่อนว่า แมวตัวนั้นมีอาการของโรคหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของผู้เลี้ยงเอง

ชนิดสีขนของ Abyssinian
ตามมาตรฐานของการแบ่งสีขนในการประกวดของ CFA Breed Standard : Abyssinian
สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 สีด้วยกันคือ
RED (สีแดงเข้ม)
RUDDY (สีน้ำตาลแดง)
BLUE (สีเทาอมน้ำเงิน)
FAWN (สีส้มอมชมพู)
RED (สีแดงเข้ม)
ลักษณะของขนจะหนา เน้นเป็นสีแดงเรื่อ ๆ กล่าวคือ มีการไล่กระจายบริเวณของสีทำให้สีไม่เข้มมากเกินไปอยู่เพียงบริเวณใดบริเวณหนึ่งเพียงจุดเดียว เส้นขนมีการสลับสีกันระหว่างสีช็อกโกแลตและสีน้ำตาล ส่วนปลายขนจะมีสีเข้มมากที่สุด ผิวหนังบริเวณลำตัวมีสีออกแดง ส่วนปลายหางมีสีน้ำตาลอมช็อกโกแลต มีส่วนสีที่บริเวณขาทั้งทางด้านนอกและด้านในที่กลมกลืนกับสีหลักของลำตัว หน้าอกและท้อง ส่วนที่บริเวณจมูกมีสีออกแดงอมชมพู ระหว่างนิ้วเท้ามีสีน้ำตาลอมช็อกโกแลตขั้นอยู่ระหว่างนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว
RUDDY (สีน้ำตาลแดง)
ลักษณะของเส้นขนจะมีการสลับสีกันระหว่างสีน้ำตาลกับสีดำเข้ม และที่บริเวณปลายสุดของเส้นขนนั้น จะมีสีเข้มมากที่สุด ส่วนผิวหนังบริเวณลำตัวจะมีสีน้ำตาลอมส้ม ปลายหางมีสีดำ ส่วนสีที่บริเวณขาทั้งด้านนอกและด้านในจะมีสีที่กลมกลืน หรือเข้ากับสีหลักบริเวณลำตัว หน้าอกและท้อง ส่วนบริเวณจมูกจะมีสีทึบมีสีออกน้ำตาลแดง ส่วนอุ้งเท้าจะมีสีดำหรือน้ำตาลก็ได้ และมีสีดำขั้นระหว่างนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว
BLUE (สีเทาอมน้ำเงิน)
ลักษณะของเส้นขน มีการสลับสีกันระหว่างสีเทาอมน้ำเงินด้วยกันเอง เพราะมีความเข้มอ่อนของสีที่ไม่เท่ากัน ส่วนปลายสุดของเส้นขนมีสีเข้มมากที่สุด ส่วนผิวหนังบริเวณลำตัวมีสีแดงอมชมพูกลมกลืนกับสีเทาอ่อน ส่วนปลายหางมีสีเทาอมน้ำเงินเช่นเดียวกับสีของเส้นขนทั่วไป ส่วนสีที่บริเวณขาทั้งด้านนอกและด้านในจะมีสีที่กลมกลืน หรือเข้ากับสีหลักบริเวณลำตัว หน้าอกและท้อง ปลายจมูกมีสีชมพูเข้ม ส่วนสีที่อุ้งเท้ามีสีม่วงอมน้ำเงินและมีสีเทาอมน้ำเงินเข้ม อยู่ระหว่างนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว
FAWN (สีส้มอมชมพู)
ลักษณะของเส้นขน มีการสลับสีกันระหว่างสีน้ำตาลอ่อนกับสีโกโก้ และที่บริเวณปลายสุดของเส้นขนนั้น จะมีสีเข้มมากที่สุด ผิวหนังบริเวณลำตัวเป็นสีเทา ส่วนปลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนผสมกับสีโกโก้เช่นเดียวกับสีทั่วไปของร่างกาย ส่วนสีที่บริเวณขาทั้งด้านนอกและด้านในจะมีสีที่กลมกลืน หรือเข้ากับสีหลักบริเวณลำตัว หน้าอกและท้อง จมูกสีส้มอ่อน อุ้งเท้าสีชมพูและมีสีน้ำตาลอ่อนผสมกับสีโกโก้อยู่ระหว่างนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว
http://www.tdl.com
http://www.breedlist.com
http://www.petplace.com
http://www.cfainc.org

ไม่มีความคิดเห็น: