Myspace Glitter Text

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

แมวพันธุ์ Scottish Fold ลักษณะประจำพันธุ์

Susie คือ Scottish Fold ตัวแรกที่ถูกค้นพบในปี 1961 ในเขต Tayside ของ Scotland ในฟาร์มใกล้ๆ Coupar Angus มีลักษณะเป็นแมวสีขาวที่มีหูพับไปมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้ ใบหน้ามีลักษณะคล้าย นกฮูก หรือ หน้าของตัวนาก ผู้ที่สังเกตเห็นคนแรกคือ William Ross มีอาชีพเป็นคนเลี้ยงแกะ Williamและภรรยาเป็นคนที่รักแมวมาก และทั้งคู่สนใจ Susie มาก เมื่อ Susieออกลูกเป็นลูกแมวหูพับ 2 ตัว ครอบครัว Ross จึงของลูกแมวตัวเมียตัวหนึ่งมาเลี้ยง ได้ตั้งชื่อว่า Snooks ลูกของ Snooks เป็นสายพันธุ์ที่มาจาก British Shorthair และนี่ก็เป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์ Scottish Fold ในเวลานี้ สายพันธุ์นี้ได้รับการจดทะเบียน จาก The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ
ในช่วงปี 1960 Pat Turner นักพันธุศาสตร์ และ cat breeder เป็นผู้หนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์นี้ ในช่วง 3 ปี มีลูกแมวเกิด 76 ตัว 42 ตัวเป็น พวกหูพับ อีก 34 ตัว เป็นพวกหูตั้ง เธอได้ร่วมกับ Peter Dyte นักพันธุศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้ลงความเห็นว่า ลักษณะหูพับกลายเป็นลักษณะเด่น นั่นหมายถึงถ้าลูกแมวได้รับการถ่ายทอดยีนจากพวกที่มีหูตั้ง และพวกที่มีหูพับ ลูกแมวตัวนั้นจะมีลักษณะหูพับ

Susie ต้นกำเนิดของสายพันธุ์ หูมีลักษณะการพับแบบหลวมๆ ปลายหูพับลงมาด้านหน้าประมาณครึ่งหนึ่ง รูปแบบนี้ เรียกว่า single fold และในปัจจุบันยังมีหูพับแบบ triple fold ด้วย คนเลี้ยงแมวบางส่วนในประเทศอังกฤษมีความเชื่อว่า แมวพันธุ์นี้อาจมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคทางหู และ มีโอกาสในการเป็นหูหนวกสูง พวกเขาจึงร่วมมือกันต่อต้านการจดทะเบียนของ Scottish Fold ใน Great Britain และ Europe

Mrs. Ross ได้นำแมวหูพับบางส่วนของเธอจัดส่งไปให้ ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ Neil Todd นักพันธุศาสตร์ ใน Newtonville คอกแรกที่เกิดในอเมริกา เกิดวันที่ 30 พฤศจิกายน 1971 หลังการค้นคว้าเสร็จสิ้นลง ลูกแมวหูพับบางส่วนได้รับการยอมรับจาก CFA
Shorthair Scottish Folds ได้รับการจดทะเบียนจาก ACA ในปี 1973 และ จาก ACFA, CFA ในปี 1974 สถาบัน TICA เป็นที่แรกที่จดบันทึกว่า Longhairs ชนะเลิศการประกวด ในปี 1987-88 และชนะของ CFA ในปี 1993-94
ถึงแม้ว่าครอบครัว Ross จะล้มเลิกความพยายามในการทำให้ประเทศของเขายอมรับแมวสายพันธุ์นี้ แต่พวกเขาได้รับการยกย่องในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นผู้ค้นพบแมวพันธุ์ Scottish Fold
ลักษณะโดยทั่วไปของ Scottish Fold
· Scottish Fold เป็นแมวขนาดกลาง ในช่วง 2 ทศวรรษ ที่ผ่านมาได้พัฒนาจนมีลักษณะเฉพาะตัวของสายพันธุ์
ตัวผู้ มีน้ำหนัก ประมาณ 9-13 ปอนด์
ตัวเมีย มีน้ำหนัก ประมาณ 6-9 ปอนด์
· ลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ มีช่องกว้าง และแสดงออกถึงความสดใส ความหวาน พวก Fold นี้ สามารถมีหูที่มีลักษณะตั้งตรงขนาดกลางได้ไปจนถึง หูพับขนาดเล็ก ที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง2-3 อาทิตย์แรก มีคางที่กลมมน จมูกสั้นโค้ง กว้าง เพื่อรับกับดวงตา บางครั้งปากจะโค้งรับกับคางที่โค้งทำให้ ได้ฉายาว่า smiling cat หรือ แมวยิ้ม ดังที่แสดงในภาพ Scottish Fold จะมีลักษณะกลมทั้งตัว
· Scottish Fold มี 2 แบบ คือ แบบ Shorthair และ Longhair พวก Longhaired Scottish Fold มีขนยาวขนาดกลาง ในตัวผู้มีขนหางเป็นพวงใหญ่ที่สวยงาม สีของสายพันธุ์นี้ สามารถพบได้หลายสี โดยเฉพาะสีน้ำตาล และสีขาว เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ลักษณะนิสัย

Scottish Fold เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง มักจะชอบที่จะคอยดูแลควบคุมในสิ่งที่เจ้าของกำลังทำอยู่ เป็นแมวที่ชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง พวกมันชอบที่จะเล่นโดยเฉพาะถ้ามีเจ้าของของมันร่วมเล่นด้วย Folds บางตัวอาจที่จะไม่ชอบนอนบนตัก แต่พวกมันชอบที่จะอยู่ใกล้ๆกับเจ้าของ

Scottish Fold ชอบที่จะนอนแผ่แบนบนหลังของมัน และมักพบมันในท่า sitting up ซึ่งดูเหมือนตัวนาก

แมวพันธุ์ Singapura ถิ่นกำเนิดของ Singapura
ชื่อพันธุ์ Singapura ตั้งตามถิ่นกำเนิดของแมวคือประเทศสิงคโปร์ นับว่าเป็นหนึ่งในชนิดที่หายาก และถือว่าพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดอีกด้วย โดยมีนำหนักประมาณ 4-9 ปอนด์ และมีเพียงสี Sepia agouti เท่านั้น คือสีน้ำตาลแต้มบนสีงาช้าง มีเพียงหน้าและขาด้านในที่มีแถบสีเข้มอยู่เป็นแถบประวัต
แมวพันธุ์ Singapura เป็นแมวพันธุ์พื้นเมืองของสิงคโปร์ และมีจำนวนไม่มาก บางครั้งถูกเรียกว่า Drain cat เนื่องจากอาศัยอยู่ตามท้องถนน แต่ลักษณะเฉพาะตัวของมันได้ไปต้องตา Hal กับ Tommy Meadow ขณะที่เขาได้อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ และได้ถูกนำเข้าไปในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1971 และนำเข้าเรื่อยมาตั้งแต่ปี 1980 Singapura ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จนเป็นที่รู้จักและได้รับรางวัลในปี 1988 และเนื่องจากไม่นิยมผสมข้ามพันธุ์ จึงมีเพียง 2000 ตัวในโลก
ลักษณะโดยทั่วไป
โดยทั่วไป เป็นแมวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ร่าเริง แข็งแรง มีใบหูและดวงตาที่ใหญ่ และสีสันที่งดงาม แมวตัวเมียโตเต็มวัยอาจหนักเพียง 4 ปอนด์ขณะที่ตัวผู้อาจหนักถึง 6 ปอนด์ แม้ตัวเล็กแต่พวกมันก็ล่ำสัน กระฉับกระเฉง แข็งแรง ไม่ใช่พวกขี้โรคหรือบอบบาง
ศีรษะ กะโหลกกลม ระยะห่างตาพอดี ปากและจมูกกลมมน โหนกแก้มสูง
ใบหู ใหญ่และบอบบาง ฐานเปิดกว้าง เหมือนถ้วยก้นลึก ขอบใบหูแหลมเป็นมุม
ตา ดวงตาใหญ่ กลมรีเหมือนเมล็ดอัลมอน สี Hazel เขียว หรือเหลือง เท่านั้น มีเส้นสีดำ
ลำตัว ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เมื่อลำตัว ขากับพื้นจะเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยม ล่ำสัน กระฉับกระเฉง
ลำคอ สั้น หนา พุ่งตรงไปข้างหน้า
ขาและเท้า อุ้งเท้าเล็ก ฝ่าเท้าสีน้ำตาลแดง มีขนสีน้ำตาลระหว่างนิ้วเท้า ตัดกับขาสีงาช้าง
หาง ยาวประมาณไหล่เมื่อวางพาดลำตัว ตั้งตรงไม่คดงอ ปลายมน
ขน ขนสั้นเกรียนติดผิวหนัง เรียบลื่นและแวววาว คล้ายกับที่พบในแมวพันธุ์ Abyssinian กระต่าย กระรอก ตัวโกเฟอร์ มีแถบสีที่ขาหน้าด้านในและเข่าหลัง
เสียง นุ่มและกังวาน
ลักษณะที่ให้โทษ เหลือบขนสีเทา โคนขนสีเทา แถบสีที่ขาหน้าด้านนอก มีเส้นรอบคอ ไม่มี Cheetah line หางเสียแต่ไม่เป็นที่สังเกต
ลักษณะที่ไม่คัดเลือก มีจุดขาว แถบสีที่หาง กระหม่อมบาง มีแถบที่คอไม่ครบหรือแถบรอบขา มีหูหรือดวงตาที่เล็กมากๆ หางเสีย ตาสีฟ้า สีขนสีอื่นนอกจากสี Sepia agouti


ลักษณะสีขน
มีเพียงสี Sepia agouti เท่านั้น คือสีน้ำตาลเข้มแต้มบนพื้นสีงาช้าง โดยแต้มสีน้ำตาลสลับกับแต้มสีงาช้างในเส้นขน ปลายขนสีเข้ม ปลายหางสีเข้ม ปากและจมูก แก้ม อก ท้อง และโคนขนเป็นสีผ้ามัสลินที่ยังไม่ฟอก บริเวณขาหน้าด้านในและเข่าด้านนอก มีแถบสีเข้มเป็นแถบๆ ซึ่งจะไม่พบในลูกแมว ขนระหว่างนิ้วเท้าเป็นสีน้ำตาล บริเวณหน้า คิ้วและมุมตาด้านนอกขอบตา ริมฝีปาก เครา เส้นจมูก สีน้ำตาลเข้ม มีเส้น Cheetah line จากมุมด้านในไปดั้งจมูก โหนกแก้มด้วยเช่นกัน จมูกสีชมพูอ่อนถึงแก่ ฝ่าเท้าสีน้ำตาลแดง

ลักษณะนิสัย
เป็นแมวที่ชอบความอบอุ่น นักล่าที่ดี ร่าเริง มีชีวิตชีวา สนใจสิ่งรอบข้าง ฉลาด ชอบอยู่ใกล้คนและไม่ก้าวร้าวกับสัตว์อื่น ชอบเล่นอะไรแปลก ๆ ชอบท่องเที่ยว ชอบนอนบนตัวคนและชอบอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
ปัญหาสุขภาพ
ไม่มีปัญหาเรื่องพันธุกรรม

การซื้อขาย
เนื่องจากแมวพันธุ์ Singapura เป็นพันธุ์ที่หายาก ราคาของแมวจะขึ้นอยู่กับชนิด แถบสีบนตัว ลักษณะและสายพันธุ์ซึ่งรองรับโดย Grand Champion (GC), National or Regional winning parentage (NW or RW) or of Distinguished Merit parentage (DM) นักผสมพันธุ์จะคัดเลือกลูกแมวอายุ 12 สัปดาห์มาฝึก พัฒนาลักษณะและความเสถียรภาพทางอารมณ์เพื่อให้คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ การแสดงตัวหรือการขนส่งทางอากาศ

การเข้าร่วมสมาคม
แมวพันธุ์ Singapura ได้รับการยอมรับจากสถาบันแมวมากมาย

มาตรฐาน
ตามมาตรฐานของ TICA (The International Cat Association)
รูปร่างศีรษะ กะโหลกต้องกลม ไม่โดม ไม่แบน ดวงตาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รูปร่างของศีรษะเป็นส่วนที่มีน้ำหนักมากที่สุดในการตัดสิน อาจยกเว้นเรื่องกรามในแมวตัวผู้ที่โตเต็มวัยแล้ว
หู ใหญ่ ชี้ในทิศทางที่เหมาะสม ฐานกว้างเหมือนถ้วยก้นลึก ซึ่งเหมาะกับลักษณะที่ใหญ่ ขนหลังใบหูสีอ่อน
ดวงตา ดวงตาใหญ่ รูปร่างรีเหมือนเม็ดอัลมอนด์ หนังตาสีเข้มขอบสีอ่อน ลายบนหน้าขับความเด่นให้ดวงตา ระยะห่างตาเหมาะสม ไม่แคบเกินไป สีตาต้องเป็นสีเขียว หรือสีเขียวคาเลโดเนีย สี Hazel สีทอง หรือทองแดง ไม่ใช่สีฟ้า เทา หรือฟ้าใส
แก้ม กลมมน
ปากและจมูก สั้นพอดีกัน จมูกมน ไม่เรียวหรือชี้ หรือเหมือนหมาป่า โหนกแก้มสูง
โครงร่าง สั้น
ลำคอ สั้นและหนา
ตัว กลางถึงเล็ก ลำตัว ขาและพื้นควรมองดูเป็นรูปสี่เหลี่ยมเมื่อมองจากไหล่ไปยังโคนหาง ขอบซี่โครงกลม หลังลาด
ขาและเท้า ขาหนักและสมส่วน เท้าเล็ก มน
หาง ยาวต่ำกว่าไหล่เมื่อวัดเทียบกับลำตัว พุ่งตรง เรียว ไม่คดงอ และปลายมน
กระดูก กล้ามเนื้อ ล่ำสันแต่ไม่อ้วน น้ำหนักไม่เกินพอดี คอและอกสมส่วน อาจจะเห็นสะโพกตรงเมื่อเทียบกับคอและไหล่ สิ่งนี้ไม่นับว่าผิดปกติในแมวรุ่น
ความยาวและผิว เรียบติดลำตัว ไม่มีจุดสี ขนลูกแมวอาจยาว
ลาย ลายหนา แต้มสีอ่อนและเข้มทั่วไป โคนขนสีอ่อน ปลายสีเข้ม มีลายที่หลัง ที่ว่างระหว่างหูควรมีสีเข้มและหนา ขนหน้าท้องบาง ความหนาของขนที่เป็นบางช่วงถือเป็นลักษณะเด่นของพันธุ์ มีแถบบนขาหน้าด้านในและเข่าซึ่งเป็นลักษณะเด่นเช่นกัน เห็นได้ชัดเมื่อโตเต็มวัย แถบด้านนอกขาหน้าถือว่าผิดปกติ มี Cheetah line ที่เห็นได้ชัด อาจพบลายตัว M บนหัว
สี สีพื้นสีงาช้างจนออกเหลือง ปากและจมูก แก้ม อก ท้อง และโคนขนเป็นสีผ้ามัสลินที่ยังไม่ฟอก จมูก สีชมพูอ่อนถึงแก่ บริเวณหน้า คิ้วและมุมตาด้านนอกขอบตา ริมฝีปาก เครา เส้นจมูก สีน้ำตาลเข้ม ฝ่าเท้าสีน้ำตาลเข้มโทนแดง ขนระหว่างนิ้วเท้าเป็นสีน้ำตาล ปลายหางสีเข้ม หูและดั้งจมูกสีชมพูแก่
ลักษณะที่เด่นคือสีเข้ม ประกายสว่าง แถบสีตัดกันอย่างชัดเจน ต้องไม่มีโทนสีเทา อาจยกเว้นได้ในลูกแมวซึ่งจะหายไปตามอายุ
http://www.catsinfo.com
http://www.felinebreeds.com
http://www.felinerescue.net
http://www.cfainc.org
http://www.plant-pets.com
http://www.thesingapuracat.50megs.com
http://www.singapuracatclub.co.uk

ไม่มีความคิดเห็น: