Myspace Glitter Text

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

แมว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แมว


การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์[แสดง]
อาณาจักร
Animalia
ไฟลัม
Chordata
ชั้น
Mammalia
อันดับ
Carnivora
วงศ์
Felidae

สกุล
Felis
สปีชีส์
F. silvestris
สปีชีส์ย่อย
F.s. catus
ข้อมูลทั่วไป[แสดง]
ชื่อวิทยาศาสตร์
Felis silvestris catus {{{binomial_authority}}}
สถานะอนุรักษ์
สถานะ : สัตว์เลี้ยง

Felis catusFelis catus domesticusFelis domesticusFelis lybicaFelis silvestris domesticus
แมว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Felis silvestris catus อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรียน ซึ่งมีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์แท้หรือแมวพันธุ์ทาง
แมวเข้ามาเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำมัมมี่แมวที่ค้นพบในสมัยอียิปต์โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นำออกมาจากปิรามิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนำเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมว Abyssinian
ลักษณะเฉพาะ
แมวเป็นสัตว์เลือดอุ่นที่มีรูปร่างเพรียว มีหางยาว และบังคับหางได้ มีใบหน้าที่เรียวและโครงหน้าแหลมเช่นเดียวกับเสือและสัตว์อื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน เป็นสัตว์ที่มีเล็บแหลมคม และมีตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดี แมวจะนอนหลับในเวลากลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงคลายเหงาที่นิยมมากชนิดหนึ่งใกล้เคียงกับสุนัข แมวบางสายพันธุ์เช่น แมวสีสวาด และแมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยที่สวยงามเป็นที่ชื่นชอบทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์ มีการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์เพื่อขาย ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ นอกจากนี้อุจจาระของแมวสามารถนำมาทำปุ๋ยได้
แมวพันธุ์ต่าง ๆ
แมวในโลกนี้มีมากมายหลายพันธุ์ โดยเฉพาะแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงไม่นับรวมสัตว์ตระกูลแมว พวกเสือ แมวดาว แมวป่า หรือ สิงโต แมวเลี้ยง หรือที่เราเรียกว่า Domestic cat นั้นมีวิวัฒนการมาจากแมวป่าในธรรมชาติจากหลายภูมิภาคของโลก ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แตกต่างกันที่เรียกกันทุกวันนี้ เช่น เปอร์เซีย แมวสยาม บาลิเนส อะบิสสิเนียน และโซมาลี นั้น แสดงถึงถิ่นกำเนิดที่แสดงถึงภูมิศาสตร์ที่เขาถือกำเนิดมา ในการจัดนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษเมื่อปีคริสศักราช 1871 ถือเป็นการเริ่มต้นในการนำเสนอพันธุ์แมวในระดับนานาชาติ ทำให้ผู้สนใจในแมวมีความตื่นตัว แต่การแสดงในครั้งนั้นส่วนใหญ่เป็นแมวเปอร์เซียและแมวขนสั้นเป็นหลัก
การจัดจำแนกแมว
โดยทั่วไปมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และแมวขนสั้น (shorthaired cats) การแบ่งพันธุ์ด้วยวิธีนี้ทำให้จำแนกแมวออกได้ตามลักษณะพันธุ์ที่จำเพาะต่างๆ กัน การจัดจำแนกแมวในยุโรปและสหรัฐอเมริกามีการกำหนดมาตรฐานของพันธุ์แมวที่เป็นที่ยอมรับกัน ทั้งนี้ลักษณะมาตรฐานของพันธุ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ การใช้ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แสดงถึงลักษณะของพันธุ์ที่จำเพาะมีความแตกต่างกันระหว่างในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีบางพันธุ์มีการจัดจำแนกเฉพาะต่างหากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แมวมีมากมายหลายพันธุ์
แมวไทย
คนไทยน้อยคนนักที่จะรู้จักว่าแมวไทยจริงๆนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ทว่าแมวไทยพันธุ์แท้นั้นกลับไปมีชื่อเสียงโด่งดังที่ต่างประเทศมากกว่าในเมืองไทย ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นพันธุ์อันเลิศพันธุ์หนึ่งในโลก และมีความมหัศจรรย์ยิ่งกว่าพันธุ์ใดๆ เมื่อปี พ.ศ. 2427 ชาวอังกฤษชื่อนายโอเวน กูลด์ (Owen Gould) กงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ได้นำแมวไทยคู่หนึ่งจากประเทศไทยไปฝากน้องสาวที่อังกฤษ อีกหนึ่งปีต่อมา แมวคู่นี้ถูกส่งเข้าประกวดในงานประกวดแมวที่คริสตัลพาเลซ กรุงลอนดอน ปรากฏว่าชนะเลิศได้รางวัลที่หนึ่ง ทำให้ชาวอังกฤศพากันแตกตื่นเลี้ยงแมวไทยกันจนมีสโมสรแมวไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 ชื่อว่า The Siamese Cat Clubs ต่อมาในปี พ.ศ. 2471 ได้มีการตั้งสมาคมแมวไทยแห่งจักรวรรดิอังกฤษขึ้น หรือ The Siamese Cat Society of the British Empire ขึ้นมาอีกสมาคมหนึ่ง
แมวที่นายโอเวน กูลด์ นำไปจากประเทศไทยนั้น มีแต้มสีครั่งหรือน้ำตาลไหม้เก้าแห่ง คือหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หาง และอวัยวะเพศ ซึ่งถือว่าเป็นแต้มสีที่อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมและไม่เลอะเทอะเหมือนแมวพันธุ์อื่น และเมื่อนำแมวไทยไปผสมกับแมวพันธุ์อื่น จะได้แต้มสีตามร่างกายในตำแหน่งเดียวกัน แต่รูปร่างจะไม่สง่างามเท่า และอุปนิสัยจะไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งแมวไทยพันธุ์นี้เป็นพันธุ์แรกที่ชาวต่างชาติรู้จัก จึงมักเรียกกันทั่วไปว่า Siamese Cat หรือ Seal Point ส่วนในสมุดข่อยโบราณของไทยให้ชื่อแมวไทยลักษณะนี้ว่า "แมววิเชียรมาศ" คุณสมบัติอันโดดเด่นของแมวไทยอีกประการหนึ่งก็คือ อุปนิสัยที่มีความฉลาด รักบ้าน รักเจ้าของ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักประจบ และที่สำคัญคือ การรักอิสระเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัว และทำให้แมวไทยเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก และเป็นที่น่าสังเกตว่า การผสมพันธุ์ระหว่างแมวไทยและแมวต่างชาตินั้น แม้จะได้แมวที่มีลักษณะและสีเหมือนแมวไทย แต่จะไม่ได้อุปนิสัยตามอย่างแมวไทยไปด้วย นอกจากว่าจะเป็นการผสมระหว่างแมวไทยด้วยกันเองเท่านั้น
ในสมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยไว้ถึง 23 ชนิด ซึ่งเป็นแมวดี (แมวให้คุณ) 17 ชนิด และแมวร้าย (แมวให้โทษ) 6 ชนิด ซึ่งในปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 13 ชนิด เหลือเพียง 4 ชนิดเท่านั้นในปัจจุบัน ได้แก่แมววิเชียรมาศ แมวโคราช แมวศุภลักษณ์ และแมวโกญจา ส่วนแมวขาวมณีนั้นแม้จะไม่ได้บันทึกอยู่ในสมุดข่อยก็ตาม แต่ก็ถือเป็นแมวไทย



เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแมว
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่สวยงามเป็นสัตว์ที่มีผู้คนนิยมเลี้ยงกันมากขึ้นทุกปี คงเป็นความชอบส่วนตัวมากกว่าว่าจะเลี้ยงสัตว์อะไรดี หลายคนที่เคยเลี้ยงแมว หรืออาจจะเริ่มเลี้ยงแมวโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากพบว่ามีแมวท้องแก่มาออกลูกที่บ้าน จำนวนหลายตัว เราคนไทยเป็นชาวพุทธมีความเมตตา ลูกแมวตัวน้อยๆ ยังไม่ลืมตา เดินต้วมเตี้ยม ตัวแดงๆ ใครจะใจร้ายไม่ดูดำดูแดงได้ลงคอ แม่แมวเหล่านี้ส่วนใหญ่มีสุขภาพไม่ดี ไม่มีบ้านอยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง หรือจะเรียกว่าแมวจรคงไม่ผิด ตัวแม่แมวบางครั้งสุขภาพไม่ดี ไม่มีน้ำนม เพราะร่างกายทรุดโทรม หรือออกลูกแล้วไม่เลี้ยง แม่แมวสาว หรือแม้แต่สัตว์ชนิดอื่น ที่มีท้องแรก อาจจะไม่ยอมเลี้ยงลูก เพราะเลี้ยงลูกไม่เป็น หรือร้ายไปกว่านั้นแม่บางตัวทำร้ายลูกด้วยซ้ำไป อาจเป็นเพราะตอนคลอดแม่แมวรู้สึกเครียดจากความเจ็บปวดจากการคลอดลูก จึงทำร้ายลูก ฟังดูเหมือนคนโรคจิต หรือไม่มีเหตุผล แน่นอนแมวเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง มันคงไม่รู้เหตุผลของความเจ็บปวดจากการคลอดลูกหรอก
ดังนั้นคงเป็นภาระของผู้ใจบุญที่ต้องดูแลเจ้าเหมียวน้อยๆ หลายคงคงไม่เคยทำก็คงได้เริ่มคราวนี้แหละ ก็เหมือนเด็กอ่อนนั่นแหละ แต่จะต้องทำอย่างไรคงต้องติดตามต่อไปนะ แต่ถ้ามีแมวแก่หล่ะจะทำอย่างไร... นั่นซิ
ยังมีประเด็นอีกหลายๆ ประเด็นที่ได้ถูกคัดสรรมาให้ผู้รักแมวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปของแมว ปัญหาทางพฤติกรรมและการติดเชื้อ โภชณศาสตร์และภูมิคุ้มกัน เนื้องอกและโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแมว


การถอดเล็บ
สารที่เป็นอันตรายต่อแมว
พืชที่เป็นพิษต่อแมว
หางของแมวบอกอารมณ์ของแมวได้อย่างไร
สาระสำคัญเกี่ยวกับพยาธิหนอนหัวใจในแมว
การติดต่อพยาธิหนอนหัวใจในแมว
การเลี้ยงลูกแมว
การเลี้ยงดูแมวสูงอายุ
สาเหตุของการเกาและการเลียในสุนัขและแมว

การถอดเล็บ
ปัจจุบันความนิยมในการเลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อนเริ่มมีมากขึ้น แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยดุร้าย กิจกรรมประจำวันมักจะนอน แต่มักจะไม่หลับนอนในเวลากลางคืน ในบางครั้งแมวที่เราเคยเลี้ยงไว้หนีไปเที่ยวเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน หรือไม่เคยกลับมาอีกเลย ไม่ค่อยมีใครทราบเหมือนกันว่า แมวไปไหน หรือในบางครั้งแมวถูกสุนัขทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต หรือถูกรถชน กรณีอย่างนี้ผู้ที่รักแมวมักจะหาแมวตัวใหม่มาเลี้ยง บางครั้งมีแมวตัวใหม่มาป้วนเปี้ยนบ้านเรา เราให้อาหารกับมันทุกวัน ทุกวัน.... แล้วก็เป็นแมวของเราไปเอง.. (แมวเราที่หนีไปเที่ยวอาจจะไปมีชีวิตแบบด้วยก็ได้... แล้วมีผู้ใจบุญให้อาหารมัน ... มันเลยไม่กลับมาอีก ก็อาจจะเป็นไปได้) บางครั้งไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงหรอก ให้อาหารไปวันๆ แต่เผลอแผล็บเดียว... เหมียวน้อยเต็มไปหมดเลย.. คราวนี้ต้องเลี้ยงกันยาวเลย...
สังคมปัจจุบันเริ่มตระหนักแล้วว่า สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ดี.. ซื่อสัตย์.. ไม่บ่น.. ไม่เถียง.. ถ้าโชคดีถ้าสัตว์เลี้ยงบางชนิดที่สามารถฝึกได้..ใช้งานได้อีก ... นั่นหมายความว่าเราไม่อาจจะคิดว่า สัตว์เลี้ยงเป็นเพียงสิ่งของ หรืออะไรสักอย่างที่ไม่ใส่ใจก็ได้ไม่ได้เสียแล้ว คงต้องดูแลเหมือนสมาชิกในครอบครัวตัวหนึ่งแล้วหละ ต้องนำมันไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค ต้องให้อาหารที่ดีมีคุณค่า ให้อยู่ในที่ที่จัดให้(กรง หรือภายในบริเวณบ้าน) สัตว์เลี้ยงอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับผู้ป่วยบางประเภท หรือแม้แต่คนชรา
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยม ด้วยความน่ารัก ชอบประจบ คลอเคลีย อันเป็นเสน่ห์ที่เจ้าของหลงใหล แต่การเลี้ยงแมวในบ้านมีปัญหาที่สำคัญประการหนึ่งคือ แมวมักจะชอบลับเล็บด้วยการข่วนเล็บของมันกับโซฟา ตู้ หมอน ทำให้เกิดความเสียหาย ถ้าปัญหาดังกล่าวมีมาก เจ้าของบางคนอาจจะเลือกวิธีการการถอดเล็บของมัน เพื่อป้องกันการทำลายสิ่งของจากการข่วนหรือลับเล็บของมัน แต่บางคนอาจจะคิดว่าเป็นวิธีการที่โหดร้าย ไม่เป็นสิ่งที่น่าทำ เมื่อลองจินตนาการดูนิ้วมือของเราเอง ปรากฎว่าไม่มีเล็บนั่นแหละคือการถอดเล็บ โดยทั่วไปการถอดเล็บมักจะทำกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ไม่ใช่แมว เช่น เสือ หรือหมี เพราะมีโอกาสทำร้ายผู้เลี้ยงได้
การถอดเล็บไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เรามองเห็น แต่การถอดเล็บเป็นการตัด หรือทำลาย ทั้งประสาทรับความรู้สึกและประสาทสั่งงาน(sensory nerves and motor) โดยที่ภายหลังการทำการผ่าตัดถอดเล็บสามารถนำแมวกลับบ้านได้เลย
แต่ภายหลังการผ่าตัดถอดเล็บ แมวมักจะมีความเจ็บปวด ไม่สามารถเดินได้ถนัดนัก แมวอาจจะซึม ไม่สดชื่น เนื่องจากแมวยังไม่สามารถเดิน วิ่งเล่น ปีน ลับเล็บได้เหมือนอย่างที่มันเคยทำ การถอดเล็บจึงอาจจะทำร้ายแมวได้ แมวอาจจะเปลี่ยนนิสัยได้ มันอาจจะไม่ค่อยไว้ใจใครอีกต่อไป เป็นแมวขี้กลัว หรือดุร้ายมากขึ้น หรือขี้ขลาดไปเลย ถ้าการทำศัลยกรรมทำได้ไม่ดีนัก แมวอาจจะเจ็บขา เดินไม่ถนัด ต้องผ่าตัดแก้ไขอีก แต่โชคดีบ้านเราไม่ค่อยมีเจ้าของแมวนำแมวมาถอดเล็บ แต่มีการนำเสือ หมีมาทำแทน

พึงระลึกด้วยว่า ปัญหาการลับเล็บของแมว หรือการข่วนเฟอร์นิเจอร์ เป็นปัญหาที่เล็กน้อยไม่ใหญ่โตมากนัก ที่สำคัญเราสามารถนำวัตถุที่เราเตรียมไว้สำหรับการลับเล็บให้กับมันได้ ที่เรียกว่า "scratching post" สามารถฝึกได้ แต่การถอดเล็บเป็นสิ่งที่อาจจะดูโหดร้ายสำหรับเรา


พืชทีเป็นพิษกับแมว
แมวเป็นสัตว์ที่ชอบกัดกินใบไม้ชนิดหนึ่งเหมือนกัน ในบางครั้งการกินใบไม้ หรือต้นไม้ที่ปลูกเป็นไม้ประดับอยู่ในบ้านทำให้แมวได้รับอันตรายได้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากมันเป็นพิษต่อแมว รายต่อไปนี้เป็นรายชื่อ พืชที่มักนิยมปลูกในบ้าน แต่เป็นพืชที่เป็นพิษ หรือเป็นอันตรายต่อแมวตั้งแต่ระดับที่ไม่รุนแรงจนถึงระดับที่มีความรุนแรง ขึ้นอยู่กับว่าแมวได้รับ หรือกินพืชนั้นเข้าไปในร่างกายมาก หรือน้อย อย่าลืมว่า แมวที่เคี้ยวกินพืชที่เราใส่ปุ๋ย หรือสารเคมี หรือยาฆ่าแมลงให้กับพืชนั้น มันอาจจะมีผลต่อแมวได้โดยตรง หรือโดยอ้อมก็ได้ หรือแมวอาจจะได้รับสารนั้นผ่านทางดินที่ใช้ปลูกพืชก็ได้ เราสามารถป้องกันแมวที่เราเลี้ยงไว้ในบ้านไม่ให้กัดกิน หรือเคี้ยวพืชที่เราปลูกประดับบ้านได้ด้วยการโรยสิ่งที่มีกลิ่นฉุน เช่น พริกไทย ที่ใบของต้นไม้ หรือถ้าแมวชอบที่จะขุดดินในกระถาง เราอาจจะหาตะแกรงมาปกคลุมดินบนกระถางป้องกันการขุดก็ได้ ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้แมวอยู่ใต้ต้นไม้เวลาไปขุด การกัดแทะจะลดลง หรือถ้าเป็นไม้ประดับที่แมวชอบไปกัด เราอาจจะปลูกต้นไม้นั้นในกระถาง หรือกระเช้า แล้วนำไปแขวนไว้ แมวก็จะไม่สามารถเข้าถึงได้ อาการของแมวที่เกิดจากความเป็นพิษของพืชมีได้ตั้งแต่ ชักและมีน้ำลายฟูมปาก มีอาเจียน จนอาจจะหมดสติถึงตายได้ : เมื่อพบว่าแมวมีอาการดังกล่าวควรรีบนำแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อให้การรักษาอย่างรีบด่วน หรือถ้าพบว่าแมวกำลังกินพืชที่เป็นพิษอยู่ (เห็น) ให้รีบนำไปพบสัตวแพทย์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้แมวแสดงอาการออกมา
· Aloe Vera
· Arrowhead Vine (all parts)
· Asparagus Fern
· Azalea
· Bird of Paradise (fruit, seeds)
· Boston Ivy (all parts)
· Caladium (all parts)
· Calla Lily
· Christmas Rose
· Chrysanthemum
· Creeping Charlie (all parts)
· Creeping Fig
· Crown of Thorns
· Daffodil
· Dieffenbachia
· Dumbcane (all parts)
· Easter lily
· Elephant Ears
· Emerald Duke (all parts)
· English Holly
· English and Glacier Ivy (leaves, berries)
· Heartleaf (all parts)
· Ivy (Hedera)
· Jerusalem Cherry
· Lily of the Valley (all parts)
· Majesty (all parts)
· Marble Queen (all parts)
· Mistletoe
· Nephthytis (all parts)
· Parlor Ivy (all parts)
· Philodendron (all parts)
· Poinsettia (leaves, flowers)
· Pothos (all parts)



หางของแมวบอกอารมณ์แมวได้อย่างไร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารทั้งมนุษย์และสัตว์แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ ภาษาพูด (ใช้เสียง) และภาษาท่าทาง (เป็นการใช้อวัยวะประกอบในการสื่อสาร) แมวสามารถใช้ หางในการสื่อสาร บ่งบอกถึงอารมณ์ของมัน(เช่น เดียวกันกับสัตว์ชนิดอื่นๆ) ดังต่อไปนี้.

ถ้าหางม้วนห้อยลง แต่ส่วนปลายหางม้วนชี้ขึ้น :แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกสบายและผ่อนคลาย
ถ้าหางของมันยกขึ้นเล็กน้อยและม้วนเล็กน้อยอย่างนุ่มนวล : แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกเริ่มที่จะสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ถ้าหางของแมวตั้งขึ้น แต่ปลายหางเอียง ไม่ว่าจะเป็นการเอียงไปข้างหน้า หรือข้างหลัง :แสดงว่าแมวตัวนี้กำลังสนใจและมีความรู้สึกเป็นมิตรต่อสิ่งที่สนใจ
ถ้าหางตั้งตรงและปลายหางตั้งตรงในแนวดิ่ง :แสดงว่าแมวกำลังมีอารมณ์ดี รู้สึกเป็นมิตร เมื่อได้พบกัน
ถ้าหางของแมวตั้งตรง โดยที่หาง หรือปลายหางกระดิก หรือสั้นอย่างนุ่มนวล : แสดงว่าแมวกำลังแสดงความชอบ ความรัก (showing affection).
ถ้าหางของแมวอยู่นิ่งๆ แต่จะมีการกระตุกเป็นครั้งคราว : แสดงว่าแมว รู้สึกว่าถูกรบกวน หรือมีความกังวล ทุกข์
ถ้าหางของแมวนิ่ง แต่ปลายหางมีการกระตุกอย่างหนัก : แสดงว่าแมวกำลังรู้สึกโกรธมาก
ถ้าหางของแมวสะบัดอย่างรุนแรงจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง : แสดงว่าแมวกำลังโกรธ*
ถ้าหางแมวเหยียดตรงชี้ขึ้น แต่ขนที่หางลุกชัน : แสดงว่าThe cat is แมวกำลังดุร้ายก้าวร้าว
ถ้าหางของแมวโค้งและขนตั้งชัน : แสดงว่าแมวอาจจะตรงเข้าทำร้ายได้ ถ้ามีการกระตุ้นเร้าเพิ่มอีก
ถ้าหางของแมวทอดตัวต่ำลงและลุกพองออก : แสดงว่าแมวกำลังกลัว
ถ้าหางของแมวยกขึ้นและขนลุกพองออก ทำให้ดูเหมือนมีหางขนาดใหญ่ :แสดงว่าแมวอาจจะ มีความสุขไปกับการวิ่งไล่ขับกันไปรอบๆ
ถ้าหางของแมวลดตัวลงต่ำมาก บางครั้งอาจจะพบว่าซุกอยู่ระหว่างขาหลัง :อาจจะแสดงว่าแมวกำลังยอมแพ้
ถ้าหางของแมวทอดตัวอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง และแมวหมอบ หรือย่อตัวอยู่ หรือยกส่วนตะโพกสูงขึ้น : แสดงว่าแมวตัวเมียตัวนั้นพร้อมที่จะรับการผสมพันธุ์ mate

สาเหตุของการเกาและเลียในสุนัขและแมว
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจโรคอันเป็นสาเหตุของการเกาและเลียในสุนัขและแมว อาการแพ้นั้นมีอยู่หลายโรค ที่เป็นสาเหตุให้สุนัขของคุณเกา เลีย ดึงขน หรือผิวหนังแดง เหล่านี้ได้แก่ โรคขี้เรื้อน โรคมะเร็ง ปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมและการติดเชื้อ พร้อมด้วยการวินิจฉัยโรคและการรักษาได้ถูก สรุปไว้ดังแสดงในตารางด้านล่างต่อไปนี้

อาการและลักษณะของโรคในแมว
โรค
ลักษณะของโรค
อาการของโรค
การวินิจฉัยโรค
การรักษาโรค
ภาวะภูมิแพ้ทางพันธุกรรม ( การอักเสบของผิวหนัง) : Atopy( Allergy inhalant Dermatitis )
การแพ้เกิดจากการที่สัตว์หายใจเอาละอองเกสร ดอกไม้ ตัวหิด และเชื้อราเข้าไป
เลียหรือแทะเท้า มีอาการอักเสบที่หู มีอาการคัน ผิวหนังเป็นผื่นแดง อาจจะเกิดการติดเชื้อหรือพุพอง
ตรวจอาการอักเสบของผิวหนังชั้นในและซีรัม
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งที่สัตว์แพ้ ใช้พวกsteroids กรดไขมัน ส่วนเพิ่มเติม : ใช้ "bactin" antihistamines แชมพู " การรักษาด้านภูมิคุ้มกัน
ภาวะแพ้อาหาร(Food Allergy)
แพ้อาหารบางชนิด
เลียหรือแทะเท้า มีอาการอักเสบที่หู มีอาการคัน ผิวหนังเป็นผื่นแดง อาจจะเกิดการติดเชื้อหรือพุพอง
จำกัดอาหาร
เปลี่ยนอาหาร
การแพ้และระคายเคืองต่อสิ่งที่มาสัมผัสผิวหนัง ( Allergic and Irritan Contact Dermatitis)
แพ้สิ่งที่ไปสัมผัส เช่น พวกขนสัตว์หรือพลาสติก
ผิวหนังแดงและบวมหรือเป็นแผลพองที่บริเวณผิวหนังที่มีขนบางๆ เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง คัน
เอาผ้ามาปิดแผล ป้องกันการติดเชื้อ
กำจัดสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งที่แพ้ ใช้ steroids antihistamines
ผิวหนังอักเสบอันเกิดจากหมัด(Flea Allergy Dermatitis: Flea Bite Hypersensitivity
น้ำลายของหมัด
ผิวหนังแดง มีอาการคันอย่างรุนแรง ขนร่วง บางครั้งอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ หรือพุพอง
การพบตัวหมัด การทดสอบการตอบสนองต่อผิวหนังชั้นใน
การควบคุมหมัดในสภาพแวดล้อมและบนตัวสัตว์ การใช้ steroids และ antihistaminesสำหรับอาการคัน
โรคขี้เรื้อนตัวไร( Sarcoptic mange)
การติดเชื้อจากตัวไรชนิด "Sarcopes"
เกิดอาการคันอย่างรุนแรง
ผิวหนังลอก ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งตัวหมัดชนิดนี้หาพบยากมาก
Amitraz dips , ivermectin
โรคขี้เรื้อนขุมขน( Demodectic mange or red mange)
การติดเชื้อจากตัวหมัดชนิด Demodex เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันโรคผิดปกติ
ขนร่วง ผิวหนังเป็นสะเก็ด แดง มีตุ่มหนองเล็กๆที่ผิวหนัง มีอาการคัน
ผิวหนังถลอก ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์
ไม่ใช้สาร steroids สามารถใช้ amitraz (mitaban) dips
โรค Cheyletiella ( Rabbit Fur Mite) Mange
เกิดการติดเชื้อจากตัวหมัด Cheyletiella
คัน ผิวหนังเป็นสะเก็ด
ผิวหนังถลอก ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งตัวหมัดชนิดนี้หาพบยากมาก
Permethrin (ใช้ในสุนัขเท่านั้น หรือ Pyrethin
โรคขี้เรื้อนในแมว (Notoedric mange in cats)
เกิดการติดเชื้อจากตัวหมัด Notodres
เกิดอาการคันอย่างรุนแรง
ผิวหนังถลอก ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์
Lime sulfer dips , Ivermectin
โรคกลากวงเดือน (Ring worm)
เกิดการติดเชื้อจากเชื้อราบางชนิด
ขนร่วง ผิวหนังเป็นสะเก็ด ผิวหนังจะมีบริเวณเป็นเปลือกแข็ง คันบ้างเล็กน้อย
การเพาะเชื้อ
Micronazole , lime sulfer dips, ให้กิน griseofulvin หรือ itraconazole
การติดเชื้อจากยีสต์ (Yeast Infection)
โดยส่วนใหญ่จะติดเชื้อจาก Malassezia หรือแอบแฝงมากับโรคอื่น
คัน ผิวหนังแดง แห้ง
ผิวหนังถลอก ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ การเพาะเชื้อ
รักษาโรคแทรกซ้อน ให้กิน ketoconazole , miconazole อาบน้ำด้วยแชมพู
ตุ่มพุพอง : ผิวหนังชื้นแฉะ( Hot spots : acute moist dermatitis )
เป็นผลมาจากการถูกหมัดกัด โรคขี้เรื้อนและโรคต่อมทวารหนัก การได้รับการทำความสะอาดไม่เพียงพอ การติดเชื้อที่หู ดอกหรือฝักของต้นไม้ที่ติดตามขน การอักเสบของข้อต่อ
ขนร่วง ผิงหนังแดง แฉะจะทำให้เกาและเลีย
การตรวจและซักประวัติ
การรักษาอาการแทรกซ้อน ทำความสะอาดบริเวณที่เป็น ใช้ Demeboro solution ให้กินหรือทา antibiotic หรือ steroids
เนื้องอกร้ายของต่อมน้ำเหลืองของผิวหนัง(Cutaneous Lymphoma)
เป็นโรคมะเร็งผิวหนังที่ไม่ค่อยพบ
คัน ผิวหนังแดง เกิดตุ่มเล็กๆ แผลเปื่อย
ตัดเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นโรคไปทำการตรวจวินิจฉัย
โดยปกติแล้วจะไม่ไม่ได้รับการตอบรับในการรักษา
เหา ( Lice )
การติดเชื้อจากพวกเหา
มีอาการไม่แน่นอน : คัน ขนร่วง หยาบ ผิวหนังแข็ง
พบตัวเหาหรือไข่เหาบนผิวหนังหรือขน
Permethrin (เฉพาะสุนัขเท่านั้น) หรือ Pyrethrin , ivermectin
การอักเสบของผิวหนังที่มีรอยพับย่น(Skin Fold Dermatitis)
เกิดบริเวณที่มีการพับของผิวหนัง เช่น บริเวณริมฝีปาก ปากช่องคลอด หน้า ( ในสุนัขพันธุ์ bulldog)
ผิวหนังแดง แฉะ คัน
การตรวจร่างกาย การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อหาหลักฐานของการติดเชื้อ
การรักษาการติดเชื้อ ทำความสะอาดทุกวัน ในกรณีรุนแรงควรได้รับการผ่าตัดทำศัลยกรรม
พยาธิปากขอ(Hookworms )
เกิดติดเชื้อจากตัวอ่อนของพยาธิปากขอ
บวมแดง โดยปกติจะเป็นที่เท้า อุ้งเท้าขรุขระ การยาวของเล็บผิดปกติ คัน
ตรวจร่างกายและตรวจประวัติ มักได้รับการสุขาภิบาลที่ไม่เพียงพอ
รักษาการติดเชื้อของระบบลำไส้ ย้ายสัตว์ไปยังสภาพแวดล้อมใหม่
ผิวหนังหนาอักเสบจากการเลีย แทะ( neurodermatitis : acral lick Dermatitis (dogs) , Psychogenic dermatitis (cats))
การเลียมีผลมาจากภาวะการบอบช้ำทางจิตใจ ความวิตกกังวล ความเบื่อหน่าย ความเครียด (เช่น การมีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้าน)
ผิวหนังแดง ขนร่วง เป็นวง โดยปกติจะเกิดที่ขาหน้าในแมว : ขนร่วง ผิวหนังแฉะบริเวณท้อง ขาหนีบ หลัง
ตรวจสอบหาสาเหตุอื่น และดูประวัติสัตว์เป็นสำคัญ
ช่วยลด ผ่อนคลายอาการหรือสาเหตุที่ซ่อนเร้นอยู่ เช่น ความวิตกกังวล
การติดเชื้อจากแบคทีเรีย(Bacteria infection)
มักเป็นผลมาจากโรคหรือภาวะอื่น
ผิวหนังแดง มีตุ่มหนองเล็กๆตามผิวหนัง บวม บางที่อาจมีอาการคัน
การตรวจร่องรอยด้วยกล้องจุลทรรศน์ การเพาะเชื้อ
การรักษาอาการแทรกซ้อน ให้กินหรือ /และทา antibiotic
หมัดในหู(Ear Mites)
การติดเชื้อพวก Otodectes
คันอย่างรุนแรงที่หู แดง มีขี้หู
ผิวหนังถลอกและตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์
ทำความสะอาดหู และใช้ยาพวก pyrethrin (Ear miticide)
Pelodera Dermatitis
การติดเชื้อโดยบังเอิญจากพวกพยาธิตัวอ่อนของหนอนพยาธิที่บริเวณฟางข้าวหรือวัตถุอื่นๆ
อาการคันอย่างรุนแรง ผิวหนังแดง
ผิวหนังถลอก ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์
ย้ายที่นอน อาบน้ำด้วยแชมพูที่มีสารป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ใช้สารพวก steroids ถ้าจำเป็น ในการควบคุมอาการคัน
Chiggers ( Harvest mites)
เป็นโรคที่เกิดตามฤดูกาล มีสาเหตุมาจากตัวอ่อนของพวกChigger
คัน บวม ปกติจะเกิดที่เท้า ท้อง และตามรอยพับที่ฐานของหู
สังเกตเห็นตัวอ่อนของหมัด การตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์
Permethrin (เฉพาะสุนัขเท่านั้น ) หรือ Pyrethrin

การเลี้ยงดูลูกแมว
การเลี้ยงลูกแมวกำพร้าแม้ต้องมีตารางประจำวันในการให้อาหารที่เหมาะสม การขับถ่ายการเล่นและการนอนหลับ โดยต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อความสำเร็จในการเลี้ยงลูกแมวต้องคำนึงถึง
1. โภชนาการและการหย่านม
2. สุขอนามัย
3. อุณหภูมิและความชื้น
4. การป้องกันโรค
5. การบำรุงและทำให้เข้ากับสังคม
ลูกแมวสุขภาพดีจะจ้ำม่ำแข็งแรง มีชีวิตชีวา หลับนาน ลูกแมวที่สุขภาพไม่ดีจะมีกล้ามเนื้อที่ไม่สมบูรณ์ ร้องบ่อยถ้าไม่ช่วยเหลือ อ่อนแอ ซึมเศร้า เฉื่อยชา
โภชนาการและการหย่านม
ลูกแมวจะได้รับน้ำนมน้ำเหลืองใน 12 ชั่วโมงแรก ลูกแมวจะดูดซึมภูมิคุ้มกันจากน้ำนมน้ำเหลืองได้ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกนับจากคลอด ในกรณีที่แม่แมวไม่สามารถเลี้ยงดูลูกแมวได้ ลูกแมวต้องดูดนมจากขวดหรือหลอดหยดตามแต่จะหาได้
การให้อาหารแบบหลอดผู้ให้ต้องได้รับการฝึกอย่างดี เพราะอาหารอาจเข้าสู่ปอดย่างไม่ตั้งใจทำให้หมดสติ การให้อาหารแบบหลอดจึงเสี่ยง อนุญาตให้ใช้เฉพาะในลูกแมวอ่อนแอซึ่งต้องอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ ควรลูบหลังลูกแมวให้เรอระหว่างให้อาหารและหลังอาหาร โดยนำมันผาดไหล่ ให้ตัวตั้งตรงและตบหลังเบาๆ การให้น้ำนมจากขวดหรือหลอดต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการปอดบวมหรือการสำลักน้ำ
ใน 24-28 ชั่วโมงแรก ลูกแมวต้องการนม 1 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง แต่ละวันเพิ่มจำนวนขึ้น 0.5 มิลลิลิตร จนถึง 10 มิลลิลิตรต่อมื้อ จึงหยุดเพิ่ม ใน 1 วันลูกแมวควรได้รับอาหาร 6-9 มื้อ
ในช่วง 2 สัปดาห์ ให้อาหารลูกแมว 5-7 มิลลิลิตรต่อครั้ง
ช่วง 3 สัปดาห์ จะเริ่มให้อาหารอ่อน 3 เวลาต่อวัน และยังมีการให้นมจากขวดอยู่
ในสัปดาห์ที่ 4 ลูกแมวควรได้รับน้ำนมจากขวด 4-6 ครั้งต่อวันร่วมกับอาหารอ่อน 4-5 ครั้งต่อวัน ลดการให้อาหารช่วงกลางคืนลง
ลูกแมวจะกินอาหารแข็งได้เมื่ออายุ 7 สัปดาห์
สัญญาณแรกของการเจ็บป่วย คือ น้ำหนักลด น้ำหนักของลูกแมวจะเพิ่มขึ้น 50-100 กรัมต่อสัปดาห์ เมื่อลูกแมวอายุ 14 วัน น้ำหนักจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของน้ำหนักแรกเกิด ถ้าลูกแมวน้ำหนักไม่เพิ่มควรให้อาหารเพิ่มขึ้น
สุขอนามัย
ลูกแมวเกิดใหม่จะไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เพราะกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยังเจริญไม่สมบูรณ์ ลูกแมวต้องได้รับการกระตุ้นโดยใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ชุบน้ำอุ่นลูบบริเวณทวารหนัก จะทำให้ลูกแมวปัสสาวะ อุจจาระภายใน 1-2 นาที โดยปกติลูกแมวอายุ 21 วัน จะขับถ่ายของเสียได้เอง หมั่นสังเกตปัสสาวะและอุจจาระของลูกแมว ปัสสาวะปกติควรมีสีเหลืองอ่อนหรือใส ถ้ามันมีสีเหลืองคล้ำหรือส้มแสดงว่าลูกแมวได้รับอาหารไม่เพียงพอ ปกติอุจจาระจะมีสีน้ำตาลจางหรือเข้ม อุจจาระสีเขียวแสดงถึงโรคติดเชื้อ ถ้าอุจจาระแข็งมากแสดงว่าให้อาหารทีละมากๆ แต่ให้ไม่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ท้องอืด มีแก๊ส หายใจไม่สะดวก
อุณหภูมิและความชื้น
ลูกแมวเกิดใหม่ยังไม่สามารถรักษาความร้อนของร่างกาย หรือสั่นตัวเพื่อให้เกิดความร้อนได้ จึงต้องมีที่ให้ความร้อนแก่ลูกแมว เช่น ตู้อบ เครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งถูกออกแบบสำหรับลูกสัตว์เกิดใหม่ จะช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมและควรระมัดระวังอย่าให้ความร้อนสูงเกินไป ควรมีเทอร์โมมิเตอร์ในบริเวณนั้นเพื่อคอยสังเกตอุณหภูมิ ในสัปดาห์แรกอุณหภูมิควรอยู่ที่ 85-90 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้น 55-65% พอ 3 สัปดาห์ลดอุณหภูมิลงเป็น 75 องศาฟาเรนไฮต์ ลองสังเกตถ้าลูกแมวมาอยู่รวมกันแสดงว่ามันหนาวไป แต่ถ้าลูกแมวอยู่ห่างกันคนละมุมแสดงว่าร้อนไป ลูกแมวที่มีอุณหภูมิร่างกายต่ำควรทำให้อบอุ่นอย่างช้าๆ ภายใน 2-3 ชั่วโมง จนลูกแมวมีอุณหภูมิร่างกายปกติ 97 องศาฟาเรนไฮต์
ควรรักษาความชื้นโดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำวางเหนือกล่องที่ลูกแมวอยู่ จะช่วยเพิ่มความชื้นได้ ไม่ควนเลี้ยงลูกแมวในที่อับชื้น หรือบนพื้นที่ผุพัง เพราะจะทำให้เกิดเชื้อรา ซึ่งอาจเกิดโรคทางเดินหายใจได้ การควบคุมอุณหภูมินั้นสำคัญกว่าในเรื่องความชื้น ลูกแมวควรอยู่ในที่ที่มีผิวสัมผัสที่ดี เช่น ผ้าห่ม ขนแกะ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูกแมว
การป้องกันโรค
ลูกแมวอาจติดโรคได้ง่าย เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าหากไม่ได้รับน้ำนมเหลืองจากแม่ นมน้ำเหลือง 24 ชั่งโมงแรกหลังคลอดจะมีแอนติบอดีมากมาย ซึ่งแอนติบอดีจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลูกแมวที่ไม่ได้กินนมน้ำเหลืองจะมีภูมิคุ้มกันโรคน้อย และควรฉีดวัคซีนให้ลูกแมวด้วย ลูกแมวอาจได้รับอันตรายจากพยาธิ จึงควรถ่ายพยาธิให้ลูกแมว เริ่มเมื่อลูกแมวอายุ 6 สัปดาห์ และถ่ายซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 8 และ 10สัปดาห์
การบำรุงและทำให้เข้ากับสังคม
เราควรลูบขน กอด และให้ลูกแมวเล่นกับคนประมาณ 30-40 นาทีต่อวัน นอกเหนือจากการให้อาหารและทำความสะอาดให้มัน ลูกแมวต้องการการกระตุ้น ควรปูรองพื้นกล่องที่ลูกแมวนอนด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม ลูกแมวจะอบอุ่นและหลับสบาย สิ่งสำคัญคือทำให้เหมือนลูกแมวเป็นสมาชิกในบ้านในช่วง 3-6 สัปดาห์ จำไว้ว่ามันยังเด็ก ต้องจับอย่างทะนุถนอม แต่ต้องเริ่มฝึกลูกแมวให้คุ้นเคยกับเสียง การขับถ่าย คนแปลกหน้า และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
สรุป ไม่ต้องกังวลว่าการเลี้ยงลูกแมวเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย ลูกแมวสุขภาพดี มีความสุขที่คุณเลี้ยงมาคือรางวัลที่วิเศษที่สุด
การควบคุมดูแลแมวที่มีอายุมากของคุณเกี่ยวกับอาการของโรคต่างๆ
ถ้าแมวที่มีอายุมีท่าทางว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างเกี่ยวกับหน้าที่ของระบบต่างๆในร่างกายมากขึ้น อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงจากการมีอายุมากขึ้น หรืออาจจะเกิดจากการมีโรคเกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งเหล่านี้จะช่วยเตือนให้รู้ว่าเป็นโรคได้แต่เนิ่นๆ ขบวนการ
การควบคุมการกินอาหาร ว่าจะให้กินเมื่อใด กินอาหารประเภทไหน มีการกินหรือการกลืนลำบากหรือเปล่า และอาเจียนหรือไม่
การควบคุมการกินน้ำ โดยดูว่ามีการกินน้ำมากกว่าหรือน้อยกว่าปกติหรือไม่
การควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระโดยดูที่ สี ปริมาณ ความเข้มข้น ความถี่ในการขับถ่าย หรือดูว่ามีอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะหรืออุจจาระหรือไม่ หรือดูว่ามีการขับถ่ายเรี่ยราดหรือไม่
ชั่งน้ำหนักทุกๆ 2 เดือน
มีการตรวจและตัดเล็บ ตรวจดูแผลตามตัว รวมถึงกลิ่นที่ผิดปกติ การขยายใหญ่ของช่องท้องและดูว่ามีอาการขนร่วงหรือไม่
การควบคุมด้านพฤติกรรม ดูการนอน การแสดงออกต่อผู้คนรอบข้างมีอาการตกใจง่ายหรือไม่ และลักษณะท่าทางการนอนผิดปกติหรือไม่
การควบคุมด้านท่าทางและการเคลื่อนไหว เช่นมีการชักหรือไม่ การสูญเสียการทรงตัว หรือเจ็บขา
ดูความผิดปกติของการหายใจ หรือดูว่ามีการไอ มีการหอบหายใจ การจามหรือไม่
ดูแลสุขภาพฟัน แปรงฟันให้แมวอย่างสม่ำเสมอ ดูว่ามีสิ่งผิดปกติในปากหรือไม่ ดูปริมาณน้ำลาย และดูลักษณะสีของเหงือกว่าเป็นสีเหลือง ชมพูหรือม่วง
ควบคุมอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมว่าแมวของคุณมีความสุขสบายหรือไม่
พาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ของคุณเป็นประจำ
ลักษณะอาการที่พบบ่อยและโรคที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม โรคที่เกี่ยวข้อง คือ ความเจ็บปวดจากข้ออักเสบหรือสภาวะอื่นๆ การสูญเสียการมองเห็นและการได้ยิน โรคตับ โรคไต โรค Hepatic lipidosis
การอ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย โรคที่เกี่ยวข้อง คือ การทำงานผิดปกติของ Mitral valve โรคหัวใจ โรคโลหิตจาง โรคอ้อน โรคมะเร็ง
การเปลี่ยนแปลงในด้านความกระตือรือร้นของร่างกาย โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรค Hyperthyroidism โรคข้ออักเสบ ความเจ็บปวดต่างๆ ความอ้วน โลหิตจาง ความผิดปกติของ Mitral valve และโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคมะเร็ง
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โรคที่เกี่ยวข้อง คือ ความอ้วน
น้ำหนักลด โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคมะเร็ง โรคไต โรคตับ โรคของระบบทางเดินอาหาร การกินอาหารลดลง Hyperthyroidism Hepatic lipidosis โรคฟัน ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ Mitral valve โรคหัวใจ การอักเสบของลำไส้
การไอ โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคหอบ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง
การดื่มมากและปัสสาวะบ่อย โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต Hyperthyroidism
การอาเจียน โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคไต โรคตับและโรคของระบบทางเดินอาหาร
อาการท้องเสีย โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคของระบบทางเดินอาหาร การอักเสบของลำไส้ โรคไต โรคตับ และอาจเกิดจากการเปลี่ยนอาหารเร็วเกินไป
การชัก โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคลมชัก ( Epilepsy ) โรคมะเร็ง โรคตับ โรคไต
อาการลมหายใจเหม็นผิดปกติ โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคฟัน โรคมะเร็งในช่องปาก โรคไต
อาการขาเจ็บ โรคที่เกี่ยวข้อง คือ การลุกลำบาก การเดินผิดปกติ ข้ออักเสบ ความอ้วน เบาหวาน
การกลั้นปัสสาวะไม่ได้หรือการถ่ายเรี่ยราด โรคที่เกี่ยวข้อง คือ การเป็นเนื่องจากข้ออักเสบ การอักเสบของลำไส้ Bladder stones โรคมะเร็ง
อาการบวมและการกระแทก โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคมะเร็งและเนื้องอกต่างๆ
การเปลี่ยนความอยากของอาหาร โรคที่เกี่ยวข้อง คือ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคตับ โรคไต ความเครียดและความเจ็บปวดต่างๆ อาจเกิดจากฤทธิ์ของยา โรคปากและฟัน Hyperthyroidism และ Hepatic lipidosis

ไม่มีความคิดเห็น: